เมืองอู่ไทยหรืออุทัยธานี เป็นเมืองประวัติศาสตร์ โดยกรมศิลปากรได้ยืนยันแล้วว่า เป็นเมืองที่มีอายุกว่า 3,000 ปี เพราะได้พบหลักฐานยืนยันทางโครงกระดูกเครื่องมือหินกะเทาะจากหินกรวด และภาพเขียนที่จารึกประวัติศาสตร์ “เขาปลาร้า” โดยเมืองอู่ไทยธานีนี้ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ที่สามารถติดต่อทางเรือได้ ชาวเมืองจะขนข้าวบรรทุกเกวียนลงแม่น้ำ พากันไปตั้งยุ้งฉางรับซื้อข้าวริมแม่น้ำ “สะแกกรัง” ปัจจุบันมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายมากทั้งภูเขา ธรรมชาติ วัดวาอาราม ที่ต่างสร้างชื่อเสียงของจังหวัด โดยเฉพาะ “วัดท่าซุง” (วัดจันทาราม)
วัดท่าซุง เป็นชื่อติดปากที่ชาวบ้านใช้เส้นทางนี้สัญจร และมีการล่องซุงกันเป็นจำนวนมาก โดยเคยเป็นท่าแพซุง จุดแวะพักกันที่หน้าวัด และชื่อวัดที่เป็นทางการของวัดท่าซุง คือ “วัดจันทาราม” เป็นวัดอุโบสถขนาดเล็ก วัดเก่าแก่ที่อยู่คู่เมืองอุทัยมาช้านาน
ภายในวัดท่าซุง มีพื้นที่กว้างขวาง ถูกแบ่งเป็นพื้นที่วัดเก่าและวัดใหม่ ซึ่งถูกขยายพื้นที่พัฒนาปรับปรุงมาเรื่อยๆ โดยภายในวัดเก่านั้น ได้มีภาพเขียนวิจิตรกรรมทางฝาผนังซึ่งบอกเรื่องราวประวัติฝีมือของชาวพื้นบ้านเป็นอย่างดี ภายในประดิษฐาน พระประธานและพระบรมสารีริกธาตุเป็นจำนวนมาก บริเวณพื้นที่ใกล้ๆกัน เป็นวิหารพลวงพ่อใหญ่และหลวงพ่อศักดิ์สิทธิ์ โดยคนพื้นที่มีความเชื่อและศรัทธาว่า ขออะไรก็สัมฤทธิ์ผลตามที่ขอ อีกทั้งยังมีรอยพระพุทธบาทจำลองให้ได้สักการะอีกด้วย
ส่วนพื้นที่ใหม่ ซึ่งถูกพัฒนาภายในศาลามณฑลแก้ว ได้เนรมิตวิหารอันสวยงามขึ้น ปานสวรรค์ “วิหารแก้ว “ 100 เมตร ที่แวววับ สวยจับตา มีวิจิตรอันงดงาม ตกแต่งด้วยโมเสกแก้วเล็กๆ เต็มวิหาร และภายในวิหารแก้ว ได้มีโลงที่บรรจุหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ชาวอุทัยธานีเคารพนับถือกันมายาวนานแล้วช่วงอายุ
โดยหลวงพ่อองค์แรก เป็นผู้สร้างวัด และถูกพัฒนาเป็นที่รู้จักพระราชมหาวีระ ถาวาโร หรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พระเถระที่มีชื่อเสียง ได้สร้างพระอุโบสถใหม่ภายในวิหาร อย่างงดงาม บานหน้าต่างบานประตูภายใน เขียนด้วยภาพเทวดา จากจิตรกรฝีมือดี ทั้งนี้พระบาทสมเด็จ ร.9 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาตัดลูกนิมิตในพระอุโบสถแห่งนี้
เมื่อก้าวเท้าเดินเข้ามารั้ววิหารจะเห็นสถาปัตยกรรมอันสวยงาม โดยสร้างสีบรรจงศิลป์ด้วยสีขาว
พอผ่านรั้วประตูเข้าไปจนถึงทางเข้าพระวิหารฯ เหล่าประชาชนที่เข้าไปเชยชม และกราบนมัสการ หลวงพ่อ ฤาษีลิงดำ ต่างทอดรองเท้าไว้หน้าวิหาร ทันทีที่เข้าไปในวิหารแก้วนั้น จะพบกับบุษบกที่ตั้งสังขารของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ไม่เน่าเปื่อย และภายในจะพบกับเสาวิหาร ที่ประดับด้วยโมเสกแก้ว สวยละลานตาปานสรวงสวรรค์ระยิบระยำเต็มไปหมด
ด้านบนเพดานของวิหารประดับประดา ด้วยช่อไฟระย้า ขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนกว่า 119 ช่อ และโมเสกสีขาวกระจกประดับทั่ววิหาร ทำให้เห็นภาพสะท้อนไปมา เสมือนไม่มีสุดสิ้นสุดอย่างไร
ภายในวิหารจะมีจุดให้แลกเหรียญ เพื่อให้เหล่า พุทธศาสนิกชนได้ร่วมทำบุญตามกำลังศรัทธา พร้อมบรรยากาศอันเงียบสงบ เย็นสบายใจ ทำให้รู้สึกจิตสงบเป็นอย่างยิ่ง บริเวณรอบวิหารได้สร้างกำแพงแก้ว และมีรูปหลวงพ่อปาน และหลวงพ่อใหญ่ขนาด 3 เท่า ในมุมกำแพงด้านมณฑป
อีกด้านหนึ่งจะมีประดิษฐานพระพุทธชินราชจำลองเป็นพระประธานและพระอรหันต์ 7 องค์ เพื่อให้เหล่าพุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ มิขาดสาย
โดยช่วงเวลาเปิดให้เข้าชม เช้า: เปิด 9.00 – 11.45 น. บ่าย: เปิด 14.00 – 16.00 น. ท่านที่สนใจสามารถนำรถเข้ามาจอดภายในพื้นที่วัดได้ โดยภายในวัดมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถจอดได้สบายๆ
ถัดออกมา อีกรั้วประตูที่ต่อเชื่อมกับบริเวณวัดท่าซุง จะพบกับ “ปราสาททองคำ” กาญจนาภิเษก ที่ถูกสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมได้อย่างน่าชื่นชม มีการก่อสร้างฉาบอิฐปูน ประดับด้วยลวดลายไทย วิจิตรศิลป์สวยงาม ถูกปิดด้วยทองคำเปลวติดกระจก ซึ่งใช้เป็นสถานที่ในการประดิษฐานพระพุทธรูป ที่ญาติโยมได้นำมาถวาย
ที่มาของประสาททองคำ สร้างขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่9 ในวาระครองราชย์ในปีที่ 50 ซึ่งทางสำนักพระราชวัง ได้ตั้งชื่อประสาททองคำใหม่นี้ว่า “ปราสาททองกาญจนาภิเษก”
ประสาททองคำประดับด้วยลวดลายไทย ปิดทองคำเปลวกระจก ทองคำเปลวปิดรอบปราสาทที่ประดิษฐานสิ่งของสำคัญต่างๆ
ส่วนรอบนอกประสาทได้ใช้ทองคำเปลวปิดรอบประสาท และภายในบริเวณใกล้เคียงยังพบกับ พิพิธภัณฑ์ “สมบัติพ่อให้” ซึ่งถูกสร้างที่อยู่ตรงข้ามประสาททองคำ
นอกจากนี้ภายในวัดท่าซุง ยังมีจุดที่น่าสนใจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นมณฑปพระปัจเจกพระพุทธเจ้า พระศรีอาริเมตตรัย วิหารสมเด็จองค์ปฐม หอพระไตรปิฏก - หลวงพ่อเงินไหลมาเทมาเจดีย์พุดตาน มณฑปและวิหารอยู่ หลายแห่งแต่ละแห่งมักจะ ติดวัสดุกระจกและล้อมรอบด้วยแก้วใส ส่วนยอดจะสร้างในลักษณะเดียวกัน และอื่นๆ อีกมากมาย
การเดินทางมาวัดท่าซุง
1.ขับรถยนต์มาเอง
สามารถขับรถมาจากสายเอเชีย ทางหลวงเลข 32 มุ่งหน้าสู่ภาคเหนือ ตัดเข้าตามป้ายบอกทาง จ.อุทัยธานี วิ่งตามถนนเข้าเมืองจนสุดทาง จะพบกับป้ายท่องเที่ยว วัดท่าซุง บอกเป็นระยะ เลี้ยวมาทางหลวง 3265 แยกไฟแดงถัดมาให้เลี้ยวซ้าย ทางป้ายบอกไป อ.มโนรมย์ ขับตามมาประมาณ 5 กิโลเมตร จะพบกับวัดท่าซุง
หรือขับมาทางสายเอเชีย หมายเลข 32 จนสี่แยกหางน้ำสาครจังหวัดชัยนาท เลี้ยวซ้ายมา มโนรมย์จนสุดถนนแม่น้ำสะแกกรัง สามารถเอารถข้ามไปฝั่งอุทัยธานี ค่าลงแพ คันละ 30 บาท และขับไปตามทางหลวง 3268 อีก 5 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณวัดท่าซุง
2. รถสาธารณะ
หากเดินทางมารถสาธารณะ สามารถนั่งรถตู้ไปอุทัยธานีประมาณ คนละ 180 บาท หรือรถขนส่งจากหมอชิต มาอุทัยธานี จะถึงบขส.อุทัยธานี แล้วนั่งสองแถว ท่าซุง-มโนรมย์ ราคา 8 บาท รถจะหมดประมาณ บ่าย 2 โมง หรือเหมารถสามล้อ สามารถนั่งได้ 2 คน ราคา 70 บาท
GPS :15.328269,100.072789