อันดับ 1 "จุดชมวิวผาจันทร์จรัส"
ตั้งอยู่บนเกาะวัวตาหลับ ทางขึ้นหลังที่ทำการ อช.หมู่เกาะอ่างทอง ใกล้เกาะสมุย ต้องโดยสารเรือธรรมดาหรือสปีดโบ้ท เตรียมพละกำลังให้พร้อม เพื่อแลกกับการปีนบันไดสูงทางชัน ไต่เส้นเชือกคว้าโคนต้นไม้เถาวัลย์ เสี่ยงหินปูนแหลมคมบาดตามร่างกาย กว่าจะได้ขึ้นไปยืนเบียดฝูงชนมีโอกาสเต๊ะท่าเซลฟี่ตรงลานระเบียงแคบๆตรงจุดชมวิวสูงสุด โอ้โห!!สวรรค์ตรงหน้าวิวพาโนรามา 360 องศาชัดๆ จนลืมเหนื่อยกับเสียงหอบแฮกๆทันที แต่ไม่ต้องลงทุนนับเพราะไม่มันครบร้อยเกาะกันหรอก แค่ 42 ในจำนวน 108 เกาะของจังหวัดสุราษฎร์ธานีเท่านั้นเอง
อันดับ 2 "สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์"
อยู่ทางแยกซ้ายมือก่อนถึงเขื่อนรัชชประภา(เขื่อนเชี่ยวหลาน) ติดกับด้านหลังของวัดเขาพัง บ้านตาขุน สร้างไว้ใช้ข้ามคลองพะแสง แต่ก่อนพื้นสะพานปูด้วยไม้ หลังบูรณะกลายเป็นเหล็กเคลือบกาวาไนท์แทน มองเห็นภูเขารูปหัวใจตรงหน้าแสนโรแมนติก เมื่อทางเขื่อนฯปล่อยน้ำลงมา บรรยากาศรอบตัวจะดูชุ่มฉ่ำเขียวชะอุ่ม อยากได้อารมณ์ฟินๆที่มีนักท่องเที่ยวไม่มาก ควรหาโอกาสไปชมในช่วงเช้าตรู่หรือยามเย็นพร้อมดูพระอาทิตย์ขึ้นหรือตก ที่สำคัญในฤดูกาลผลไม้ออกชุกนั้น หากเดินไปจนสุดปลายสะพานอีกด้าน จะมีทั้งทุเรียนบ้านพันธุ์คลองแสง เงาะโรงเรียน มังคุด ลองกอง อร่อยๆ วางให้ชิมและจำหน่าย โปรดช่วยอุดหนุนซื้อฝากซื้อหากันได้ในราคาจากผู้ผลิตโดยตรง
อันดับ 3 "จุดชมวิวเขา ต.เต่า"
แค่ได้ยินชื่อก็น่าค้นหา ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ตำบลพะแสง อำเภอบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางหลวงแผ่นดินสาย 401 (สุราษฎร์ธานี-ตะกั่วป่า) ผ่านตลาดบ้านตาขุน เลยสามแยกทับคริสต์ประมาณ 3 กิโลเมตร ผ่านโรงเรียนมัธยมเปี่ยมรัก วัดพังกาญจน์ (ก่อนถึงโรงพยาบาลพนม/วิทยาลัยเกษตรพนม) ให้รอเลี้ยวขวาพอพ้นหลัก กม.ที่ 78 ตรงป้ายของ"หน่วยพิทักษ์อุทยานเขาสกที่ ขส.1(เขาตอเต่า)" ขับขึ้นเนินไปต่ออีกราว 5 กิโลเมตร ถนนบางช่วงชำรุด จนถึงลานจอดรถระเบียงไม้จุดชมวิวเพิงร้านค้าชั่วคราว(ห้ามตรงไปต่อเพราะเป็นทางตัน) และถ้าหากตั้งใจจะมาชมทะเลหมอกหนาๆเหนือผืนป่าเขียวขจี เขื่อนรัชชประภา(เขื่อนเชี่ยวหลาน) เขาเทพพิทักษ์(เขาพัง) คลองพะแสง พร้อมบรรยากาศเย็นสบาย ทันชมแสงทไวท์ไลท์ท้องฟ้าสวยๆกัน ควรเลือกมาให้ถึงด่านตั้งแต่เช้าตรู่ก่อน 6 นาฬิกา
อันดับ 4 "เนินทรายเหมืองแกะ"
ร่องรอยหลงเหลือจากการทิ้งขี้ทรายขาวเนียนละเอียดจากขั้นตอนกรรมวิธีการทำเหมืองแร่ดีบุกยุคเฟื่องฟูในสมัยก่อน รวมกองทับถมนานวันเข้าเป็นเนินทรายขนาดมหึมาหลายร้อยเมตร สูงราวตึก 7-8 ชั้นแถวบ้านเหมืองแกะ อำเภอบ้านนาสาร ควรเลือกช่วงเดินขึ้นไปชมปฏิมากรรมแปลกตาจากลมฟ้าอากาศกัดเซาะ ชมหมอกชมตะวันตอนเช้าๆเย็นๆจะได้ไม่ร้อนแดดแผดเผาจนสุก จนถึงด้านบนจะมองเห็นตัวเมืองบ้านนาสารบางส่วน หลุมเหมืองเก่าขังน้ำสีฟ้าเทอร์คอยซ์ จินตนาการภูเขาด้านหนึ่งคล้ายพระนอนคอยคุ้มครองปกปักษ์คนในพื้นที่ และที่สำคัญให้อารมณ์ความรู้สึกดุจประหนึ่งถูกทิ้งไว้โดดเดี่ยวในโลกใบนี้ เฝ้ายืนส่งกระแสจิตรอคอยความหวังให้ยานอวกาศลำแม่มารับกลับไปอยู่ดาวดวงเดิมโดยด่วน ฮาฮาฮา
อันดับ 5 "จุดชมวิวลานหินพัด"
นอกจากลักษณะหินธรรมชาติรูปพัดที่ตั้งโดดเด่นสง่าติดเขตบ้านยวนสาว คีรีรัฐนิคม ยังถือเป็นจุดชมหมอกในยามเช้าและชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็นที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของจังหวัด ปัจจุบันพัฒนาเส้นทางให้สามารถขับรถเก๋งขึ้นไปจนถึงลานจอดรถด้านบนได้แล้ว เดินตามแนวโสดสวนยางพาราจนทะลุสักไม่ถึง 200 เมตร ก็จะได้สัมผัสกับหินรูปพัดก้อนนี้ตั้งตระหง่านอย่างแน่นอน หากมีเวลาเดินขึ้นไปชมวิวพาโนรามาตรงแนวหน้าผาหินป่าเขียวชะอุ่มด้านล่าง แทบจะเอื้อมมือไปสัมผัสปุยหมอกที่ลอยผ่านหน้ากันได้พร้อมความหนาวเย็นผิวเนื้อผิวหนังแบบฟินๆ
อันดับ 6 "ชมพระอาทิตย์ขึ้นเขานางเอ"
จุดชมวิวทะเลหมอกที่น่าสนใจอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเดินทางไม่ลำบากมากนัก หาเวลาชวนกันปิกนิกแคมป์ปิ้งบนลานหินเขานางเอ ติดอยู่หลังสวนโมกขพลารามไชยาสักคืน เพื่อจะได้แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาชมทะเลหมอกพร้อมพระอาทิตย์ขึ้นเหนือท้องทะเลอ่าวไทยอย่างงดงามก่อนใครๆ หากโชคดีท้องฟ้าเปิดจะเห็นไกลถึงเกาะสมุย หมู่เกาะอ่างทอง ส่วนตอนกลางคืนสามารถเห็นแสงไฟจากสะพานศรีสุราษฎร์ ปากแม่น้ำตาปีเป็นรางวัลชนะใจท้าทายความกลัวของชีวิตแบบเอ้าท์ดอร์ในสถานที่วังเวงแบบนี้ บรื๋อออ...
อันดับ 7 "สำนักสงฆ์อุทยานเขานาในหลวง"
ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 401 (สุราษฎร์ธานี –ตะกั่วป่า) ตรงไปตลอดเลยตลาดบ้านตาขุนไปอีกประมาณ 3 กม.ผ่านโรงเรียนอนุบาลเปี่ยมรักแล้วเตรียมเลี้ยวซ้ายตรง กม.61 เข้าทางหลวงหมายเลข 4246 ขับต่อไปอีกไม่เกิน 20 กม.เห็นป้ายแล้วเลี้ยวขวาก็ถึงพิกัด แนะนำให้ตื่นไปกันตั้งแต่เช้ามืดประมาณตีสี่ ซึ่งต้องใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองสุราษฎร์ฯประมาณ 1-1.5 ชม. เพื่อจะได้ไปทันชมแสงทไวไล้ท์บรรยากาศยามเช้าพระอาทิตย์ขึ้นลอดทะลุซุ้มประตูพุทธาวดีเจดีย์ 9 ยอด หรือออกแรงปีนเขาเสียวๆขึ้นไปชมองค์เจดีย์ท่ามกลางขุนเขาเคล้าไอหมอกสวยงามเกินคำบรรยายใดๆ อุแม่เจ้า!!แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าพื้นดินที่กำลังยืนเหยียบอยู่ตอนนี้ "ที่นี่ เมืองคนดีสุราษฎร์ธานีบ้านเราเองแท้ๆ"
อันดับ 8 "ทะเลหมอกศูนย์วิจัยจุฬาภรณ์พัฒนา 8"
เขาหนามเตยแห่งโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8 ตั้งอยู่หมู่ 5 บ้านกอบแกบ ตำบลลำพูน อำเภอบ้านนาสาร ระยะทางคร่าวๆห่างจากตัวตลาดนาสารไม่ถึง 10 กิโลเมตร ตามถนนไปเหมืองทวด ข้ามสะพานคลองฉวาง ประมาณ 4 กิโลเมตรเจอป้ายทางแยก "ซ้ายไปน้ำตกดาดฟ้า-ขวาไปโครงการจุฬาภรณ์พัฒนา 8" ต่อจากนี้ "ใครจะหาว่าอำเภอบ้านนาสารไม่มีทะเลนั้น คงไม่ใช่แล้วล่ะ" ในเมื่อสองตาที่สัมผัสทะเลหมอกหนาขาวอยู่ตรงหน้า เกือบเอื้อมมือคว้าให้มาอยู่ในอ้อมกอดของตัวเองได้ ซึ่งบางมุมบางตำแหน่งเห็นเพียงแค่ยอดเขาเขียวเสียดทะลุโผล่ขึ้นมาเท่านั้น
อันดับ 9 "ภูเขาหินปูนเขื่อนเชี่ยวหลาน"
นาทีนี้คงไม่มีใครปฏิเสธที่จะไม่รู้จักชื่อ"เขื่อนรัชชประภา(เขื่อนเชี่ยวหลาน)" แห่งบ้านตาขุน อันโด่งดังไปทั่วโลก นับจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปี เพื่อวัตถุประสงค์อยากหาประสบการณ์ปลีกวิเวก ยอมแลกตัดขาดการสื่อสารจากโลกภายนอก เตรียมจองช่วงเวลาใช้ชีวิตอิสระพักนอนในแพแสวงหากิจกรรมต่างๆ อาทิ กระโดดเล่นน้ำ พายเรือคายัค ล่องเรือชมธรรมชาติของภูเขาหินปูนลักษณะรูปร่างหลากหลาย หรือเลือกเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติและชีวิตสัตว์ป่าต่างๆได้อย่างปลอดภัย
อันดับ 10 "บ้านดอนจากเขาท่าเพชร"
สะดวกสบายอยู่ใกล้แค่เอื้อมกับกิจกรรมออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่นจักรยาน ขึ้นไปชมแสงเช้าพร้อมปุยหมอกลอยเหนือเมืองบ้านดอนจากมุมสูงของจุดชมวิวเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาท่าเพชร หากสังเกตดีๆอาจเห็นเกาะแก่งต่างๆในอ่าวบ้านดอน เสร็จแล้วอย่าลืมไปนมัสการพระธาตุศรีสุราษฎร์กับชมต้นพยอมที่พ่อตั้งใจปลูกไว้ให้เป็นศิริมงคลตอนพระองค์ท่านเสด็จเยี่ยมพสกนิกรชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีเมื่อครั้งปี พ.ศ.2502
ม๋อจิ้ว@สุราษฎร์ธานี
ขอบคุณข้อมูลจาก:
https://www.facebook.com/On-My-Ways-by-mor-J-E-W-1490945937797037/
